6.25.2550

So 3moTioNaL T-T

SOWELU
"TO YOU"
http://downloads.khinsider.com/game-soundtracks/album/angel-heart-op-single-to-you-sowelu-/01-to-you.mp3

ฉันชอบเพลงนี้มากเลย เพราะดี ลองฟังดู เพลงนี้ร้องเป็นภาษาญี่ปุ่น คนร้องไม่ใช่คนญี่ปุ่นไม่รุ้ว่าคนประเทศอะไรเหมือนกัน ร้องได้กินใจดี ตอนฟังครั้งแรกไม่รู้หรอกว่าความหมายมันคืออะไร แต่ฟังแล้วรู้สึกอินไปกับน้ำเลียงแล้วทวงทำนอง ซึ่ง T_T...แต่พอไปลองหาคำแปลก็รู้ว่าเพลงนี้มีversionภาษาอังกฤษด้วย(ถ้าใครหาได้ก็ขอด้วยนะ ฮิฮิ)ความหมายของเพลงนี้ดีมากเลย เป็นความรู้สึกของผู้หญิงที่ต้องแยกจากกับคนรัก แต่ไม่ได้เป็นการแยกจากกันที่ทรมาณหรือเศร้าเลย มันเป็นการจากลากันอย่างมีความสุข "ถึงแม้ต้องเลิกลากันไป ฉันก็ยังมีความสุขที่จะรักเธอต่อไป" อารมณ์แบบเนี่ยเหมือนคนรักตายจากไปเลยแนะ แฮะๆ ถ้าอยากรู้ความหมายทั้งหมดของเพลงนี้อยู่ด้านล่างนะ

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

We walked together on this road
but we followed it alone
Remembering the sound of the waves, the light of the moon
I turned around, but you're not there

After that, I managed to smile
even though I couldn't do everything right
But, I'm not going to cry anymore
so once more, I'll walk on myself

I'm always lovin' you, forever more
I want to hold on tightly to the sight of you
smile, forever and ever
I'm always lovin' you, forever more
I'll never forget, how you looked over me
I'll be alright, but don't let go, because
You gave me everything

The dreams you had
The songs you liked
If I finally understand their meaning
then I need to tell you how I feel, even if it's late

I'm always lovin' you, forever more
Even now, I want to keep telling you
how thankful I am
I'm always lovin' you, forever more
Thanks to you, I can be more gentle
I'll be alright, because I haven't
lost anything that you taught me

Everytime we're at the brink of seperation
you smile, and it becomes an important moment
I can still remember those times even now

I'm always lovin' you, forever more
I want to hold on tightly to the your
love, forever and ever
I'm always lovin' you, forever more
I'll never forget, how you looked over me
I'll be alright, you can let go
because I'll be right here

diRecTioN



วันนี้ระหว่างทางกลับบ้านฉันสังเกตเห็นว่าช่วงเวลาที่ขับรถวิ่งด้านล่างด้านบนจะเห็นป้ายบอกทาง ไม่ว่าจะเป็นด้วยตัวอักษร ลูกศร หรือสัญลักษณ์ล้วนแล้วแต่เป็นการบอกทิศทางต่อเนื่องไปยังจุดหมายที่เราต้องการ









ก็คิดว่าถ้าเป็นเขาวงกตล่ะ เขาวงกตเป็นทางที่สามารถหลงได้ง่าย ไม่มีอะไรบ่งบอกทิศทางให้ จุดหมายของมันก็คือเดินเข้าไปแล้วต้องหาทางออกให้ได้ คือมันเป็นอะไรที่สับสน แต่มันก็มีความต่อเนื่องกัน สงสัยมันคงจะเป็น sequence ที่สับสน งงๆ นะเนี่ย หลงอีกต่างหาก แต่มันก็น่าสนใจดีตรงที่มันเป็นความต่อเนื่องที่ทำให้คนที่เข้ามาในเขาวงกตเข้าใจผิดในทิศทาง ความต่อเนื่องที่ฉันเห็นในเขาวงกตมี 2 แบบ คือ เส้นทางที่ถูกต้องที่จะพาเราออกจากเขาวงกต และ เส้นทางที่มีไว้หลอกเพื่อให้หลง ตรงหลงเนี่ยแหละที่น่าสนใจ คือ พอหลงแล้วเราก็จะวิ่งวนไปวนมา กลับมาที่เดิมตรงโน่นตรงนี้ มันก็เลยกลายเป็นความต่อเนื่องที่อยู่ในการหลง ที่เราวิ่งวนไปมารอบๆ ไปเรื่อยๆ ไม่หยุด แล้วทางเหล่านั้นที่วิ่งผ่านก็เชื่อมต่อกัน ทะลุไปตรงนี้ทีตรงนั้นที คงจะมันน่าดูเลยถ้าเราเข้าไปหลงอยู่เขาวงกตเนี่ย ฮ่า ฮ่า

อยากลองทำเรื่องนี้เหมือนกันน่าสนุกดี

6.24.2550

mY SqUenCE...


ตอนนี้ sequence ที่ฉันสนใจและอยากทำมาก คือ การเต้น การเต้นนั้นเป็นsequenceที่ต่อเนื่องที่สวยงามและมีพลังให้คราวเดียวกัน การเต้นนั้นต้องใช้การเคลื่อนไหวทั้งร่างกายเพื่อเคลื่อนไหวเชื่อมต่อกันเป็นทวงท่าที่ขยับไปตามจังหวะเพลงจนจบ บางครั้งการเต้นเราก็สามารถส่งต่อให้คู่ที่เต้นกับเราได้เช่นกัน มันก็จะกลายเป็นทวงท่าใหม่ที่เกิดขึ่นระหว่างคน 2 คน ฉันสนใจเรื่องศริระของคนต่อที่กำลังเต้น ศริระต่างๆขณะเต้นเชื่อมต่อกันดูมีพลังมากเลย ส่วนใหญ่แล้วต่อที่เห็นคนเต้นจะไม่ค่อยมีใครสังเกตการเคลื่อนไหวของศริระเท่าไหร่ ส่วนใหญ่คนจะการเต้นโดยรวมที่ออกมาเป็นทวงท่าอย่างชัดเจน แต่ฉันรู้สึกว่าการเต้นที่เน้นศริระที่ค่อยๆขยับไปทีละท่า แบบ zoom in zoom out บาง ให้ดูเหมือนว่าเชื่อมต่อกันจริงๆ ก็น่าสนใจดี เน้นๆไปเลย แขนเป็นแขน ขาเป็นขา นี้แหละ! SEQUENCE!!!!!



DANCE! DANCE! หนุกๆ มันๆ โย่!

6.17.2550

I Lov3 tHis MoVie

Final Fantasy VII Advent Children

หนังเรื่องนี้เป็นหนัง 3D Animation ภาคต่อจากเกม Final Fantasy VII เป็นเกม RPG ชื่อดังระดับโลก ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนบนไกอาหลังจากเกิดเหตุ
อุกาบาตรตกลงมาที่ไกอา แต่ก็ถูกช่วยไว้โดย Lifestream (พลังงานของไกอา) จึงทำให้อุกาบาตรถูกทำลาย แต่มันก็มีผลกระทบโดยการที่มันนำโรคชนิดหนึ่งที่ไม่สามารถรักษาได้มาด้วย ส่วนใหญ่คนที่ติดโรคนี้จะเป็นเด็ก แต่พระเอกก็เป็นโรคนี้เช่นกัน เพราะว่าในตัวพระเอกนั้นมี Jenova Cellจากการทดลอง และ Jenova Cell นั้นเป็นสัตว์จากต่างดาวและเป็นส่วนหนึ่งของอุกาบาตร จึงทำให้ตัวพระเอกนั้นติดโรคนี้ไปด้วย

ด้วยเหตุนี้ฉันจึงคิดว่า Jenova Cell นั้นเป็น sequence ของเรื่องนี้ เพราะทุกอย่างมันเริ่มจากสิ่งๆนี้ โดยการที่ Sephiroth นักรบในตำนานที่ตายไปในเกม เชื่อว่าตัวเองเป็นลูกของ Jenova จึงยอมรับไม่ได้ที่เห็นแม่ตัวเองโดนทรมานจากการทดลอง Sephiroth จึงช่วยทำตามความปรารถนาของแม่ กวาดล้างโลกนี้แล้วสร้างโลกใหม่ให้แม่ พอ Sephiroth ตายไปแล้วก็ยังไม่วายที่จะกลับมาทำตามความปรารถนาของแม่ โดยการส่งตุ๊กตาร่างคนเพื่อมาชิง Jenova Cell ที่เหลืออยู่จากบริษัท Shinra เพื่อให้ตัวเองได้กลับมาอีกครั้ง และเพื่อที่จะได้สู้กับพระเอกอีกครั้งด้วย

Jenova
กลุ่มเพื่อนๆ

กลุ่มตุ๊กตาร่างคน (Kadaj, Yazoo, Loz)

sequence sequence

เมื่อคืนวันอังคารบังเอิญว่าไปดูการ์ตูนนักสืบเรื่องหนึ่ง ไม่ได้กะจะดูหรอก ไม่มีอะไรดูก็เลยดู อีกอย่างเป็นตอนที่ดูแล้วด้วย มันเป็นตอนที่พวกพระเอกกำลังไขคดีอยู่พอดี พอดูไปเรื่อยๆ อยู่ตัวนักสืบก็พูดคำว่า “sequence” ออกมา (ลืมบอกว่าการ์ตูนภาพย์เป็นภาษาอังกฤษ) ในการ์ตูนเค้าพูดถึง sequence เกี่ยวกับการตัดต่อวีดีโอตอนไขคดีว่า ตัวฆาตกรใช้การตัดต่อเพื่อให้เข้าใจผิดว่าผู้ตายตายตอนไหน ตัวฆาตกรนั้นถ่ายวีดีโอตอนฆาตกรรมหลอกไว้ตามเวลาที่ฆาตกรรมจริงไว้ก่อน พออีกวันจึงฆาตกรรมอีกครั้งในเวลาเดียวกัน แล้วเอาที่ถ่ายทั้ง 2 ฉากมาตัดต่อแล้วเชื่อมต่อกันให้ดูเหมือนว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในชั่วเวลาเดียวกัน

พอได้ดูการสืบคดีนี้จบ ทำให้ฉันคิดเรื่องการตัดต่อว่า การตัดต่อนั้นส่วนใหญ่นั้นจะตัดต่อแต่ภาพที่เราต้องการมากที่สุด ส่วนที่เราไม่ต้องการเราก็จะลบทิ้ง ฉันก็เลยคิดว่าไอ้ส่วนที่เราไม่ต้องการ จริงๆแล้วมันก็เป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทำ ฉากก็ฉากเดียวกัน คนแสดง เหตุการณ์ก็เหมือนกัน แต่ที่ไม่เหมือนก็คือแสดงผิดเท่านั้น ฉันก็เลยมาคิดถึงตรงนั้นที่เราแสดงผิดหรือมีอะไรผิดพลาดสักอย่างจึงทำต้องส่งคัท ตรงความผิดพลาดมันดูน่าสนใจดีนะ แบบว่าพอลองนึกดูว่าเอาฉากที่เราทิ้งมาจัดเรียงกันมันรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่แปลกดี มันอยู่ในเรื่องเดียวกันแต่มันมีอะไรมากกว่านั้น เช่น อารมณ์ที่ไม่มีอยู่ในหนัง เป็นต้น (เรื่องแบบนี้พอจะรู้บ้างเพราะชอบตัดต่อ)

พลังจากที่คิดเรื่องฉากหนังไปเรื่อยๆ ฉันก็ลองเอามาเปรียบเทียบกับอย่างอื่นดูบ้างว่าจะเป็นไปได้ไหม ลองเอาไปเปรียบกับการวาดภาพต่อเนื่องโดยไม่ยกดินสอเลย การลากเส้นไปเรื่อยๆ ก็เหมือนกับ sequence ที่ลากเป็นเส้นตรง โค้ง เฉียง ก็ได้ มีหลากหลายที่เราอยากจะวาด บางครั้งในช่วงที่เราวาดอาจจะเกิดสิ่งผิดพลาดที่เราไม่ได้หรือไม่อยากให้เกิด เช่น หมึกหยด สีเลอะ เป็นต้น แบบว่าแย่แล้วทำยังไงดีมันเลอะ มันเป็นสิ่งเราไม่ต้องการให้เกิดขึ้นกับงานเรา แต่พอเราลองเอาความผิดพลาดนั้นมาใช้ให้เป็นประโยชน์โดยการที่เราลองแก้ในจุดที่ผิดพลาด แล้วทำให้มันกลมเกลื่อนไปกับงาน งานที่ออกมาก็ยังเป็นงานชิ้นเดิมแต่อาจมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ยังคงเป็นงานเดิม พอคิดแบบนี้แล้วมันทำให้รู้สึกว่าความผิดพลาดสามารถทำให้งานดูน่าสนใจขึ้น ดูน่าตื่นเต้น น่าสนุกดี ทำให้รู้สึกว่าเรื่องราวที่เราคิดตั้งแต่ต้นจนจบก็เป็นเรื่องที่เรากำหนดแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกะทันหันแบบไม่ได้ตั้งตัวกลับทำให้ออกมาดูมีสีสันมากกว่าเดิมเสียอีก ถ้าเปรียบกับหนังก็คงเป็นตอนหักมุมละมั่ง

6.14.2550

FUn fuN....

Photobucket Album

งานชิ้นนี้มีชื่อว่า Popping Dance ทำตอนเรียน Com. Design 4 เป็นงานชิ้นแรกที่ได้ทำอะไรค่อนข้างตามใจตัวเอง concept ของงานก็คือ จังหวะของชีวิตประจำวัน เริ่มต้นก็คือ ฉันได้ไปที่ถนนพระอาทิตย์ แล้วก็ได้เห็นว่าที่นี้มีอะไรหลายๆอย่าง จากนั้นฉันก็ก็เริ่มทำ mind map จากที่ฉันไปถนนพระอาทิตย์ ฉันจึงได้คำว่า "เต้น" แล้วก็แตกไปอีกว่าเต้นแบบไหน ฉันเลือก popping dance ที่เลือกเพราะเป็นความชอบส่วนตัว styleการเต้นpopping danceจะเป็นการกระตุกร่างกายตามจังหวะเพลง แล้วฉันก็สนใจในเรื่องของการกระตุก จังหวะของดนตรีแนวนี้ แล้วที่เลือกconceptนี้ก็เพราะอยากแสดงให้เห็นว่าไม่จำเป็นว่าต้องเต้นเป็นถึงจะสนุกกับเพลง ลองมองไปรอบๆตัวเราดูจะเห็นว่าที่ไหนๆก็มีจังหวะในดนตรี ทำให้เรารู้สึกสนุก มีชัวิตชีวา ก็เลยทำงานชิ้นนี้ออกมา......โดยส่วนตัวแล้วงานชิ้นนี้ยังไม่ใช่งานที่ดีที่สุด แต่ที่เลือกมาให้ชมเพราะเป็นงานที่ทำแล้วรู้สึกสนุกจริงๆ>_<