6.17.2550

sequence sequence

เมื่อคืนวันอังคารบังเอิญว่าไปดูการ์ตูนนักสืบเรื่องหนึ่ง ไม่ได้กะจะดูหรอก ไม่มีอะไรดูก็เลยดู อีกอย่างเป็นตอนที่ดูแล้วด้วย มันเป็นตอนที่พวกพระเอกกำลังไขคดีอยู่พอดี พอดูไปเรื่อยๆ อยู่ตัวนักสืบก็พูดคำว่า “sequence” ออกมา (ลืมบอกว่าการ์ตูนภาพย์เป็นภาษาอังกฤษ) ในการ์ตูนเค้าพูดถึง sequence เกี่ยวกับการตัดต่อวีดีโอตอนไขคดีว่า ตัวฆาตกรใช้การตัดต่อเพื่อให้เข้าใจผิดว่าผู้ตายตายตอนไหน ตัวฆาตกรนั้นถ่ายวีดีโอตอนฆาตกรรมหลอกไว้ตามเวลาที่ฆาตกรรมจริงไว้ก่อน พออีกวันจึงฆาตกรรมอีกครั้งในเวลาเดียวกัน แล้วเอาที่ถ่ายทั้ง 2 ฉากมาตัดต่อแล้วเชื่อมต่อกันให้ดูเหมือนว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในชั่วเวลาเดียวกัน

พอได้ดูการสืบคดีนี้จบ ทำให้ฉันคิดเรื่องการตัดต่อว่า การตัดต่อนั้นส่วนใหญ่นั้นจะตัดต่อแต่ภาพที่เราต้องการมากที่สุด ส่วนที่เราไม่ต้องการเราก็จะลบทิ้ง ฉันก็เลยคิดว่าไอ้ส่วนที่เราไม่ต้องการ จริงๆแล้วมันก็เป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทำ ฉากก็ฉากเดียวกัน คนแสดง เหตุการณ์ก็เหมือนกัน แต่ที่ไม่เหมือนก็คือแสดงผิดเท่านั้น ฉันก็เลยมาคิดถึงตรงนั้นที่เราแสดงผิดหรือมีอะไรผิดพลาดสักอย่างจึงทำต้องส่งคัท ตรงความผิดพลาดมันดูน่าสนใจดีนะ แบบว่าพอลองนึกดูว่าเอาฉากที่เราทิ้งมาจัดเรียงกันมันรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่แปลกดี มันอยู่ในเรื่องเดียวกันแต่มันมีอะไรมากกว่านั้น เช่น อารมณ์ที่ไม่มีอยู่ในหนัง เป็นต้น (เรื่องแบบนี้พอจะรู้บ้างเพราะชอบตัดต่อ)

พลังจากที่คิดเรื่องฉากหนังไปเรื่อยๆ ฉันก็ลองเอามาเปรียบเทียบกับอย่างอื่นดูบ้างว่าจะเป็นไปได้ไหม ลองเอาไปเปรียบกับการวาดภาพต่อเนื่องโดยไม่ยกดินสอเลย การลากเส้นไปเรื่อยๆ ก็เหมือนกับ sequence ที่ลากเป็นเส้นตรง โค้ง เฉียง ก็ได้ มีหลากหลายที่เราอยากจะวาด บางครั้งในช่วงที่เราวาดอาจจะเกิดสิ่งผิดพลาดที่เราไม่ได้หรือไม่อยากให้เกิด เช่น หมึกหยด สีเลอะ เป็นต้น แบบว่าแย่แล้วทำยังไงดีมันเลอะ มันเป็นสิ่งเราไม่ต้องการให้เกิดขึ้นกับงานเรา แต่พอเราลองเอาความผิดพลาดนั้นมาใช้ให้เป็นประโยชน์โดยการที่เราลองแก้ในจุดที่ผิดพลาด แล้วทำให้มันกลมเกลื่อนไปกับงาน งานที่ออกมาก็ยังเป็นงานชิ้นเดิมแต่อาจมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ยังคงเป็นงานเดิม พอคิดแบบนี้แล้วมันทำให้รู้สึกว่าความผิดพลาดสามารถทำให้งานดูน่าสนใจขึ้น ดูน่าตื่นเต้น น่าสนุกดี ทำให้รู้สึกว่าเรื่องราวที่เราคิดตั้งแต่ต้นจนจบก็เป็นเรื่องที่เรากำหนดแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกะทันหันแบบไม่ได้ตั้งตัวกลับทำให้ออกมาดูมีสีสันมากกว่าเดิมเสียอีก ถ้าเปรียบกับหนังก็คงเป็นตอนหักมุมละมั่ง

ไม่มีความคิดเห็น: